KizunaX

การจดทะเบียนบริษัทและการจัดตั้งธุรกิจ

การจดทะเบียนบริษัทและการจัดตั้งธุรกิจ

การจัดตั้งนิติบุคคลในประเทศญี่ปุ่นต้องอาศัยความรอบคอบ การปฏิบัติตามกฎหมาย และความเข้าใจในวัฒนธรรม ตั้งแต่การเลือกโครงสร้างบริษัทที่เหมาะสม ไปจนถึงการดำเนินการตามข้อบังคับท้องถิ่น ทีมงานของเราพร้อมให้การสนับสนุนแบบครบวงจร เพื่อให้ธุรกิจของคุณจดทะเบียนได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

Corporate Registration & Business Set Up​

เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ เช่น การวิจัยตลาด การประสานงาน หรือการจัดหาสินค้า โดยไม่มีการสร้างรายได้หรือทำสัญญา

เหมาะกับ: บริษัทที่ต้องการทดสอบตลาด ก่อนตัดสินใจจัดตั้งนิติบุคคลเต็มรูปแบบ

  • สถานะทางกฎหมาย: ❌ ไม่ใช่นิติบุคคลแยกต่างหาก

  • กิจกรรมเชิงพาณิชย์: ❌ ไม่อนุญาต

  • การจ้างพนักงาน: ⚠️ มีตัวเลือกที่จำกัด

  • การเป็นสปอนเซอร์วีซ่า: ❌ ไม่สามารถ

  • ต้องมีผู้แทนท้องถิ่น: ✅ ใช่

ช่วยให้บริษัทต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจในญี่ปุ่นได้ โดยไม่ต้องจัดตั้งนิติบุคคลแยกต่างหาก
เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องกับโครงสร้างองค์กรระดับโลก หรือดำเนินงานภายใต้เอกลักษณ์ของบริษัทแม่เดียวกัน

  • สถานะทางกฎหมาย: ✅ ส่วนขยายของบริษัทแม่

  • กิจกรรมเชิงพาณิชย์: ✅ อนุญาต

  • การจ้างพนักงาน: ✅ ทำได้

  • การเป็นสปอนเซอร์วีซ่า: ✅ ทำได้

  • ต้องมีผู้แทนท้องถิ่น: ✅ ใช่

โครงสร้างที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า เหมาะสำหรับสตาร์ทอัพหรือ SME ต่างชาติที่ต้องการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด
มักถูกใช้สำหรับการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว โครงการนำร่อง หรือบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดยต่างชาติเต็มรูปแบบ

  • สถานะทางกฎหมาย: ✅ นิติบุคคล

  • กิจกรรมเชิงพาณิชย์: ✅ อนุญาต

  • การจ้างพนักงาน: ✅ ทำได้

  • การเป็นสปอนเซอร์วีซ่า: ✅ ทำได้

  • ต้องมีผู้แทนท้องถิ่น: ✅ ใช่*

*หลังจากการแก้ไข Companies Act ของญี่ปุ่นในปี 2015 ไม่จำเป็นต้องมีผู้พำนักท้องถิ่นในการจดทะเบียนบริษัท แต่ยังต้องมีผู้แทนหรือเอเย่นต์ท้องถิ่นเพื่อดำเนินการที่สำคัญ เช่น การนำเงินทุนเข้า การทำสัญญาเช่าสำนักงาน และการเปิดบัญชีธนาคาร

โครงสร้างที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า เหมาะสำหรับสตาร์ทอัพหรือ SME ต่างชาติที่ต้องการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นด้วยต้นทุนที่ไม่สูง
มักใช้สำหรับการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว โครงการนำร่อง หรือบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดยต่างชาติ 100%

  • สถานะทางกฎหมาย: ✅ นิติบุคคล

  • กิจกรรมเชิงพาณิชย์: ✅ อนุญาต

  • การจ้างพนักงาน: ✅ ทำได้

  • การเป็นสปอนเซอร์วีซ่า: ✅ ทำได้

  • ต้องมีผู้แทนท้องถิ่น: ✅ ใช่*

*หลังจากการแก้ไข Companies Act ของญี่ปุ่นในปี 2015 ไม่ได้กำหนดให้ผู้ก่อตั้งต้องพำนักอยู่ในญี่ปุ่น แต่ยังคงต้องมีผู้แทนหรือเอเย่นต์ท้องถิ่นเพื่อดำเนินการสำคัญ เช่น การนำเงินทุนเข้า การทำสัญญาเช่าสำนักงาน และการเปิดบัญชีธนาคาร

ประเด็นที่ควรพิจารณา

ความน่าเชื่อถือ

KK (Kabushiki Kaisha) เป็นโครงสร้างบริษัทที่ดั้งเดิมที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากลูกค้า พันธมิตร และสถาบันในญี่ปุ่น

GK (Godo Kaisha) แม้จะเป็นโครงสร้างใหม่กว่า (เริ่มใช้ในปี 2006) แต่ก็ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ในบรรดาบริษัทระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจในญี่ปุ่น (เช่น Amazon, Apple, ExxonMobil)

อย่างไรก็ตาม ในบางอุตสาหกรรมยังคงให้ความสำคัญกับ KK มากกว่า เพราะมองว่ามีศักดิ์ศรีและความเป็นทางการสูงกว่า

การขยายตัว

KK รองรับการดำเนินงานในระดับใหญ่และขยายได้มากขึ้น รวมถึงความสามารถในการ:

  • จัดตั้งคณะกรรมการบริษัท (Board of Directors)
  • เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • ออกหุ้นเพื่อระดมทุน

GK เหมาะสมกับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ถือหุ้นโดยเอกชน และไม่รองรับกลไกเหล่านี้

โครงสร้างความเป็นเจ้าของ

KK แยกบทบาทผู้ถือหุ้นและฝ่ายบริหารออกจากกันอย่างชัดเจน รองรับโครงสร้างการกำกับดูแลที่เป็นทางการมากขึ้น

ใน GK นักลงทุนถูกมองว่าเป็น “พันธมิตร” (Partners) ซึ่งโดยทั่วไปมีทั้งสิทธิความเป็นเจ้าของและอำนาจการดำเนินงาน พร้อมข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนสิทธิ์ออกเสียงหรือการกระจายผลกำไรตามสัดส่วนการลงทุน

ต้นทุน

GK มีความคุ้มค่าในการจัดตั้งและบำรุงรักษามากกว่า

  • ค่าจดทะเบียนต่ำกว่า
  • ภาระทางกฎหมายที่น้อยกว่า (ไม่จำเป็นต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีหรือการเปิดเผยข้อมูลบังคับ)

KK ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่อง รวมถึง:

  • การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี
  • การเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
  • การประชุมคณะกรรมการและการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบตามกฎหมาย (ถ้ามี)

คำรับรองจากลูกค้า